Webex Meeting

Webex meeting ฟรี ประชุมออนไลน์ได้ง่ายๆ อยู่ห่างไกลก็ไม่ใช่อุปสรรค

Webex meeting ตัวช่วยที่จะทำให้เราทุกคนสามารถสื่อสารกันได้ง่ายๆ แม้ต้องอยู่ไกลกัน ไม่ว่าจะเป็นการประชุมออนไลน์ หรือ การเรียนออนไลน์ และก็อย่างที่ทุกๆ คนทราบ เนื่องจากการแพร่ระบาดของ Covid-19 ในปัจจุบัน หลายบริษัท หลายองค์กรได้ตัดสินใจให้พนักงาน Work Form Home โดยทำงานติดต่อสื่อสาร พูดคุยหรือประชุมกันผ่าน Video Conference ไปจนถึงการพูดคุยพบปะกับลูกค้าด้วย ดังนั้น การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ จึงกลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตหรือสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องทำ คุณสามารถใช้งาน webex ฟรี ไม่เสียเงิน วันนี้เราจะมาแนะนำการสมัครและการใช้งาน 

Webex คืออะไร?

Webex คือ แพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ (Webex meeting) ที่กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากตอบโจทย์การสื่อสารบนโลกยุคใหม่ได้ดีเยี่ยม แม้ไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน แต่ก็สามารถพูดคุยกันได้ โต้ตอบกันได้บนจอที่แสดงผลทั้งภาพและเสียง Webex มีฟีเจอร์การใช้งานหลากหลาย รองรับการใช้งานทั้งแอปพลิเคชันบนมือถือและคอมพิวเตอร์ และขอบอกเลยว่า คุณไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะ Webex มีความปลอดภัยขั้นสูงสุด เชื่อถือได้แน่นอน การันตีโดยบริษัท Cisco ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา บริษัทที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผู้วางระบบเครือข่ายเน็ตเวิร์คสำคัญๆ ทั้งในภาคของรัฐบาลและบริษัทต่างๆ  

ลองใช้ Webex ฟรี

Cisco ให้คุณสามารถใช้งาน Webex ได้ฟรีถึง 90 วัน ราวๆ 3 เดือน โดยที่คุณสามารถประชุมได้อย่างต่อเนื่อง 50 นาที และรองรับ 100 Devices เลยทีเดียว และอย่างที่บอกว่า Webex มีฟีเจอร์การใช้งานหลากหลาย รองรับการใช้งานได้หลากหลายช่องทางเช่นเดียวกัน เช่น Application บน  Smartphone / Tablet ทั้งระบบ IOS และ Android รวมถึง PC Windows หรือ MAC OS สามารถใช้งานได้ ผ่าน Web Browser เท่านั้นยังไม่พอ ยังมี Software ให้ Download ลงบนเครื่องด้วย เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานด้วย

วิธีการใช้ Webex?

วิธีการใช้งาน เริ่มต้นด้วยการสมัคร เพื่อทดลองใช้งานก่อน โดยให้เข้าไปที่  https://www.webex.com เมื่อเข้ามาคุณจะเห็นหน้าตาของเว็บประมาณนี้

 

จากนั้นให้คลิก “Start for Free” เพื่อทำการสมัครและสร้าง Account เป็นของตนเอง

กรอกอีเมลที่คุณต้องการสมัครลงไป ไม่ว่าจะเป็นอีเมลส่วนตัวของคุณหรือเป็นอีเมลของทางบริษัทก็ได้ เมื่อกรอกอีเมลเสร็จเรียบร้อยแล้วให้กด Next

จากนั้นระบบจะส่งรหัสโค้ดทั้ง 6 หลักไปยังอีเมลที่คุณสมัคร ให้คุณเข้าไปเช็คในอีเมลแล้วนำรหัสทั้ง 6 หลักที่ได้รับ มากรอกลงที่ช่อง Enter verification Code

หลังจากที่กรอกรหัสทั้ง 6 หลักเรียบร้อยแล้ว ก็จะมาปรากฏที่หน้านี้ จากนั้นให้คุณใส่ข้อมูลรายละเอียดของตนเองลงไปประเทศ ชื่อนามสกุลและสร้าง Password เป็นของตนเอง

เมื่อใส่ข้อมูลรายละเอียดของตนเองเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นอันเสร็จสิ้น ประสบความสำเร็จในการสมัคร ขั้นตอนต่อไปคือคุณสามารถเลือกได้เลยว่าจะดาวน์โหลดลง Desktop หรือใช้งานบนเว็บไซต์ ซึ่งในกรณีนี้เราจะเข้าไปทดลองใช้งานบนเว็บไซต์ ดังนั้น เราจึงคลิกเลือกที่ Continue on web

 

เมื่อคิดที่ Continue on web ก็จะขึ้นเป็นหน้าดาวน์โหลด จากนั้นให้คุณรอสักครู่ รอไม่ถึง 30 วินาที 

เสร็จแล้วก็จะปรากฏดังภาพตัวอย่างด้านล่างหมายความว่าคุณได้สมัครใช้งานและสร้าง Account กับ Webex meeting เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

เมื่อเข้ามาหน้าลัก ให้คุณกดที่ I’ll Just look around ที่อยู่ด้านล่าง เพื่อมองดูบริเวณรอบๆ ของหน้าหลัก ว่ามีส่วนไหนที่น่าสนใจบ้าง หรือมีฟังก์ชันไหนที่ใช้งานได้ 

คุณจะเห็นฟีเจอร์หลักๆ ที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ ไม่ว่าจะเป็น Dashboard, Messaging, Teams, Calls และ Meeting 

คุณสามารถเข้าไปสร้างทีมของคุณ โดยให้คลิกเลือกที่ Teams เมื่อคุณคลิกเข้ามาแล้วให้คุณสร้างทีม โดยกดที่เครื่องหมายบวกหรือ Create a team 

เมื่อคลิกเข้ามาแล้ว คุณสามารถใส่ชื่อ-นามสกุลของคนในทีม แต่ละคนได้ นอกจากนั้นคุณยังสามารถเพิ่มรายละเอียดของคนในทีมได้ด้วยเช่น นายเอ ตำแหน่งวางแผนการตลาด นายบี ฝ่ายขาย เป็นต้น หลังจากที่คุณใส่รายละเอียดคนในทีมลงไปเรียบร้อยแล้ว คุณก็กด Create ได้เลย คุณสามารถเพิ่มสมาชิกคนในทีมลงไปได้ จำนวนมาก สำหรับเวอร์ชั่นใช้งานฟรีสามารถเพิ่มได้มากถึง 100 คนเลยทีเดียว 

มาต่อกันที่ Calls คุณสามารถค้นหาบุคคลอื่นๆ เพื่อเข้าร่วมการประชุมเดียวกันได้ โดยบุคคลนั้นๆ ต้องมี Uses หรือมี Account ของ Webex ซึ่งอาจค้นหาด้วยการพิมพ์ชื่อ อีเมลหรือใส่ Meeting URL ลงไป 

ในส่วนของ Meetings เมื่อเข้ามาแล้วให้คุณเลือก Schedule a meeting เพื่อสร้างกำหนดการ สร้างหัวข้อในการประชุม รวมถึง รายละเอียดอื่นๆ ในการประชุม 

เมื่อเข้ามาแล้ว คุณสามารถใส่รายละเอียด Topic หรือหัวข้อของการประชุม ใส่รหัส Password สำหรับการประชุม เลือกวันที่และเวลาในการนัดหมาย และสำคัญที่สุดเลยคือ อย่าลืมใส่อีเมลของผู้เข้าร่วมประชุมด้วย เสร็จเรียบร้อยแล้วให้คุณกดที่ Start จากนั้นระบบจะส่งอีเมลไปยังผู้เข้าร่วมประชุมของคุณ เมื่อผู้เข้าร่วมประชุมของคุณได้รับอีเมลแล้ว หากพวกเขาต้องการที่จะเข้าร่วมประชุมด้วย ก็เพียงแค่กด Accept และเมื่อถึงวันเวลาก็สามารถกด Join ได้จากปุ่ม Start meeting ในอีเมลได้เลย

ในส่วนของ  Messaging คือ แชทที่เอาไว้สนทนากันนั่นเอง คุณสามารถสนทนากับเพื่อนร่วมทีมหรือ User คนอื่นๆ ได้นอกจากนั้นยังสามารถ Attach ไฟล์งานและแชร์ข้อมูลให้ทีมของคุณหรือคนอื่นๆ ได้อีกด้วย

ในหน้าของ Dashboard นั้น คุณสามารถเข้าไปดูตารางการประชุมได้ที่ Schedule และเริ่มการประชุมได้ที่ Start a Meeting คุณสามารถส่งลิงค์ URL การประชุม ให้กับคนอื่นๆ เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นเข้าร่วมการประชุมเดียวกันกับคุณก็ยังได้   

เมื่อคุณคลิกเข้าไปที่ Start a Meeting ก็จะมี Pop Up เด้งขึ้นมา หลังจากนั้นให้คุณกดไปที่ Join from your browser

 

ต่อมาให้คุณกดที่อนุญาต เพื่อให้เข้าถึงไมโครโฟนและกล้องของคุณ 

แต่หากคุณไม่ต้องการให้ใครเห็น ก็เพียงแค่ปิดกล้องไว้ แล้วเปิดเพียงไมโครโฟนสำหรับพูดคุยกันก็ยังได้ หรือปิดไมโครโฟน ไว้ เพื่อฟังแค่เสียงอย่างเดียวก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้น คุณยังสามารถเลือกกดบันทึกการประชุม เพื่อรับชมย้อนหลังได้ด้วย เมื่อเริ่มประชุมคุณจะสามารถรายชื่อคนอื่นๆ หรือผู้เข้าร่วมประชุมได้จาก Participants

หลังจากที่เสร็จสิ้นการประชุมแล้ว คุณสามารถปิดประชุม โดยคลิกที่ End Meeting ระบบจะถามอีกครั้งว่าต้องการออกจากการประชุมหรือไม่ หากต้องการ คุณกดยืนยันอีกครั้งเป็นการเสร็จสิ้นการประชุมเรียบร้อย สำหรับหน้าต่างด้านข้าง ก็ยังมีห้องแชทให้คุณได้พูดคุยหรือสนทนารวมถึงการส่งไฟล์ข้อมูลต่างๆ แชร์หากันได้ด้วย 

ทำไมไม่มีเสียง?

บางครั้งคุณอาจเจอปัญหาการใช้งาน เกี่ยวกับไมโครโฟน เมื่อคุณพูดออกไปแล้วปรากฏว่าไม่มีเสียงหรือผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆ ไม่ได้ยินเสียงพูดของคุณ อันดับแรกเลยคือให้คุณเช็คก่อนว่าตัวเองได้เปิดไมโครโฟนอยู่หรือไม่ คุณได้อนุญาตให้ระบบเข้าถึงไมโครโฟนของคุณหรือเปล่า คุณสามารถสังเกตเห็นสัญลักษณ์รูปไมโครโฟนได้จากเครื่องมือที่อยู่ด้านล่าง Mute / UnMute  การเปิดหรือปิดไมโครโฟน หลังจากที่คุณได้เปิดไมโครโฟนเรียบร้อยแล้ว ให้คุณเช็คเสียง โดยคลิกที่ไอคอนจุด 3 จุด แล้วเลือกที่ “Speaker, Microphone and Camera” จากนั้นให้คลิกที่ Test  ซึ่งหากไม่มีปัญหาอะไรโดยปกติแล้วเราต้องได้ยินเสียงดนตรี

ทำไมบันทึกไม่ได้?

หากคุณต้องการบันทึกการประชุม เพื่อดูย้อนหลังหรือแชร์ให้กับคนที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ก็เพียงแค่คลิกที่ปุ่ม “Recording” ในระหว่างการประชุม คุณสามารถกด “Pause” เพื่อหยุดบันทึกชั่วคราวหรือกด “Stop” เพื่อหยุดบันทึกการประชุมก็ได้ ซึ่งคุณต้องสังเกตให้ดีว่าสถานะการบันทึกเป็นอย่างไร Recording, Pause หรือ Stop เพราะบางครั้งคุณอาจไม่ทันได้สังเกตว่าตัวเองเผลอไปกด Pause  หรือกด Stop ตั้งแต่เมื่อไหร่ ดังนั้น พยายามสังเกตให้ดีและให้สถานะเป็น Recording อยู่ตลอดเวลา และสิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้เอาไว้ คือ ผู้ที่สามารถบันทึกการสนทนาได้ จะต้องเป็นโฮสต์ของการสนทนาหรือเป็นผู้นำเสนอ (Presenter) เท่านั้น ผู้เข้าร่วมสนทนา ไม่สามารถทำการบันทึกการสนทนาด้วยตนเองได้

Webex meeting แพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ ที่ใช้งานง่ายมากๆ คุณสามารถเข้าไปทดลองใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยระยะเวลา 90 วัน บอกได้เลยว่ามันเป็นแพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ที่ทันสมัย มีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์ หากคุณทดลองใช้งานฟรีครบตามระยะเวลาที่กำหนดแล้ว พบว่า Webex ดีจริง ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง มีประโยชน์ต่อการทำงานของคุณ มีประโยชน์ต่อองค์กรของคุณ ตลอดจนมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอน คุณก็สามารถตัดสินใจใช้บริการแพลตฟอร์มนี้แบบเสียเงิน รับรองว่าคุณค่า ไม่ผิดหวังแน่นอน 

ซอฟต์แวร์การประชุมทางวิดีโอที่ยอดเยี่ยมอีกตัวที่เราแนะนำคือซูม : ดูวิธีลงทะเบียนฟรีกับ Zoom

Facebook
Twitter